ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดีสำหรับเมืองนี้ เป็นเมืองที่ไม่เคยอยู่ในหัวเรามาก่อน
คือมันไม่ต้องถึงกับแวะมาก็ได้ แต่ถ้ามีโอกาสได้แวะมา ก็คุ้มค่า (มากๆ) อยู่นะ
ประมาณนี้ล่ะกัน ฮ่าๆ
หลังจากมาทำงานอาสา #workaway ที่มิวเซียมในเมืองย่างกุ้งอยู่เกือบสัปดาห์ เราเหลือ
เวลาอีกสองวันก่อนกลับไทย ตามแพลนเดิมคือไปต่อที่ อินเล แต่คิดว่าเทแน่ๆ เพราะเดินทาง
เหนื่อย ไปก็อยู่ได้ไม่นานไม่คุ้มเลย โอเคงั้นเปลี่ยน! พม่ามันน่าขี่มอไซต์วะ อยากได้ฟีลแบบ
แว๊นซ์มอไซต์ตะลุยชนบทงี้ สรุปหวยออกที่ ‘พะอาน’ (Hpa-An)
เมืองอะไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่านั่งรถไปแค่ 5 ชั่วโมงเท่านั้น เราเจอชื่อเมืองนี้อยู่ในตารางรถทัวร์ของ
โฮสเทล เสริชเน็ตดูแล้วน่าจะเข้าท่า งั้นปักหมุดที่นี่แหละ!
02:00 AM
ตัดภาพมาที่เราและเพื่อนเดินงงๆ ลงจากรถบัส พร้อมกระเป๋าเดย์แพคคนละใบ (เป้ใบใหญ่ฝากไว้ที่โฮสเทล) ไหนในตารางบอกว่าจะถึงตีห้าไง? นี่ก็ประหยัดด้วยการไม่จองที่พักมา กะว่ามาถึงแต่เช้านั่งจิบชาสวยๆ แล้วออกซิ่งต่อเลย ค่าโรงแรมก็ไม่ต้องเสีย ฉลาดมากพวกเรา
ป๊าบเข้าให้! แผนพลิกสิบตลบ มองไปคือเงียบกริบ มีร้านค้าเหงาๆ เปิดอยู่หนึ่งร้านถ้วน ละที่รถจอดคือไม่ใช่สถานีนะ แต่เป็นข้างถนน ตัวเมืองอยู่ไหนไม่มีใครรู้ แต่คนขับรถรับจ้างรู้! พร้อมโบกมือหยอยๆ อยู่ฝั่งตรงข้ามรอให้เราไปถามราคา แต่ทานโทษนะคะ ไม่ไปหรอกค่ะ ดูก็รู้เลยนะคะว่าจะโก่งราคาแน่ เห๊อะ ทำเป็นไม่สนใจเดินหนีดีกว่า
เอ๊ะ ว่าแต่แล้วเราจะเดินไปไหนล่ะ? อ๊ะ งั้นหันหลังกลับไปขึ้นรถรับจ้างดีกว่า …ว่างเปล่า ใช่ค่ะ คนขับรถแยกย้ายกลับบ้านกันหมดแล้ว งานงอกของจริง หนังชีวิตมากค่ะซีนนี้ คิดอยู่อย่างเดียวว่าชิบหายแน่ นอนไหนล่ะทีนี้ แล้วเมื่อกี้นี้จะมัวหยิ่งทำไมนะ 55555
โชคยังเข้าข้าง ดั๊นมีชาวบ้านขี่มอไซต์มาพอดี ลุงแกพูดอังกฤษไม่ได้ แต่เราดันเหลือบไปเห็นว่าเขาใส่เสื้อ ‘ส.แบตเตอรี่’ เอาวะ งั้นพูดภาษาไทยแม่งเลย สรุปลุงรู้เรื่องจ้าาา แต่พอได้แบบงูๆปลาๆงงๆ จนเกือบจะพาไปส่งด่านแม่สอดกลับไทย ฮ่าๆ สุดท้ายได้ลุงนี่แหละพาซ้อนมอไซต์เข้าไปหาที่พักในเมือง ใจดีมากกก 🙂
‘พะอัน’ (Hpa-An) ดูเหมือนเป็นเมืองเล็กๆ แต่ความจริงแล้วมีกิจกรรมหลายอย่างให้ทำเยอะอยู่นะคะ โดยเฉพาะคนที่ชอบ Hiking สำรวจถ้ำ ขี่จักรยานชิลๆ เราว่าต้องชอบเมืองนี้แน่นอน นักท่องเที่ยวต่างชาติเขายกให้เป็นเมือง Hidden Gems เชียวแหละค่ะ
ใครที่ฟิตๆ ตอนเช้าเราแนะนำให้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบน Zwegabin Mountain (ใช้เวลาเดินเกือบสองชั่วโมง) แต่สายไม่ฟิตแบบเรา เลยขอเลือกมาเดินตลาดเช้าแทนนะคะ แหะๆ
สำหรับร้านเช่ามอไซต์มีให้เลือกเพียบเลยค่ะ ราคาประมาณ 150-200 บาท/วัน พร้อมได้ลายแทงแผนที่มาหนึ่งใบ เราขี่ออกมาตั้งต้นกันที่ ‘Veranda Youth Community Cafe’ ซึ่งอยู่นอกเมืองมาหน่อยๆ แวะกินข้าวเช้าเติมพลังเล็กน้อย แล้วก็นั่งจิ้มที่ที่อยากไปมันเดี๋ยวนั้นเลย
จะบอกว่ามีถ้ำเยอะมากกก ภูเขาก็เยอะมากๆ เช่นกัน แต่เรามีเวลาน้อยจัดเพราะเดี๋ยวหัวค่ำต้องนั่งรถบัสกลับเข้าย่างกุ้งแล้ว บวกกับหลง หลงกันเละเทะ ทำให้เวลาเหลือน้อยเข้าไปอีก เพราะฉะนั้นเก็บที่เที่ยวมาให้ทุกคนได้ทั้งหมดสองที่ถ้วนค่ะ T T
อย่าเพิ่งด่ากันนะคะ 555555 คืออยากมารีวิว เพราะประทับใจหลายๆ อย่างเกี่ยวกับเมืองนี้เยอะเลย แทนที่จะเรียกว่าเป็นรีวิว เอาเป็นเรียกว่าอุทาหรณ์แล้วกันค่ะ ‘ไม่ควรมาเช้าเย็นกลับไวขนาดนี้ / ควรนอนสัก 2-3 คืน / ควรทำการบ้านมาด้วย / ควรจองโรงแรมมาก่อน เน๊อะ’
เริ่มต้นจุดหมายแรก ‘Kyauk Ka Lat Pagoda‘ อันนี้บอกเลยว่า สวยมากกก แบบเกิดอะไรขึ้น ทำไมเจดีย์ขึ้นไปอยู่บนข้างบนได้อ่ะ อะเมซิ่งมากค่ะ ต้องมา! ตัวหินที่ตั้งเจดีย์อยู่บนเกาะกลางทะเลสาบเล็กๆ นะคะ เขามีสะพานไว้ให้เดินข้ามไป พอไปถึงก็ต้องถอดรองเท้า สามารถเดินขึ้นไปด้านบน (แต่ไม่สุด) เพื่อดูวิวรอบๆ ได้ด้วยค่ะ
มาต่อกันที่ ‘Sadan Cave’ กว่าจะมาถึงที่นี่ได้หลงไปเกือบชั่วโมงค่ะ เข้ามาค่อนข้างลึกอยู่เหมือนกัน แต่คุ้มค่ามากกกๆ ใครเวลาน้อยเหมือนเราแล้วยังดั้นด้นจะมา แนะนำว่ายังไงก็ไม่ควรพลาดอย่างแรง
พอมาถึงปุ๊บ เราก็ต้องเอามอไซต์ไปฝากจอดไว้ก่อน แล้วก็ค่อยเดินไปเข้าปากถ้ำทางฝั่งซ้ายซึ่งก่อนจะเข้าได้ก็ต้องถอดรองเท้าถุงเท้ากันก่อน ย้ำว่า!!! ให้เอารองเท้าใส่กระเป๋าไปด้วยเลยนะคะ เพราะนี่โง่จัด เห็นชาวบ้านถอดไว้ตรงบันได ก็ถอดกับเขานั่นแหละ สรุปตอนออก มันออกอีกฝั่งค่ะ ต้องเดินเท้าเปล่า แล้วมันเป็นดินบวกหินบอกอากาศที่ร้อนเหมือนซ้อมตกนรก ทรมานสุดพลังมาก อย่าหาทำค่ะ
บางช่วงของถ้ำแอบมืดและน่ากลัวนิดหน่อย ต้องใช้ไฟฉายจากมือถือเข้าช่วย แล้วก็พยายามเดินเกาะกลุ่มกับคนอื่นๆ ไว้ จะได้ไม่โหลงเหลงนัก เดินไม่ไกลมากประมาณยี่สิบนาที เราก็จะมาทะลุกับทางออกถ้ำด้านหลัง ซึ่งเป็นท่าเรือเล็กๆ สำหรับนั่งลอดถ้ำออกไปด้านหน้าอีกที (ใครไม่อยากนั่งจะเดินกลับทางเดิมก็ได้นะคะ แต่แนะนำว่านั่งเถ๊อะ สวยมากกก)
ค่าเรือคนละ 1,500 kyats (40 บาท) เรือจะพาลอดถ้ำพายทะลุออกไปเลียบทุ่งนาชาวบ้าน พร้อมกับวิวฉากหลังเป็นภูเขาสูงตั้งตระหง่าน ฮือออ สวยมากค่ะ สวยจนลืมแดดเปรี้ยง อากาศร้อนๆ ไปชั่วขณะ แต่! เรือจะมาส่งแค่ครึ่งทางเท่านั้นนะคะ เราจะต้องเดินไปข้างหน้าต่อเอง หรือจะนั่งมอไซต์ออกไปก็ได้ ยี่สิบบาทเท่านั้น
ก่อนกลับแวะหาข้าวกินที่ตลาดเล็กๆ หน้าถ้ำกันซักหน่อย ลุงคนที่ดูแลลานจอดมอไซต์ พอรู้ว่าเป็นคนไทยก็แนะนำร้านก๋วยเตี๋ยวข้างๆ ด้วยสรรพคุณที่ว่า ‘อร่อยเหมือนอนุสาวรีย์’ 555555 โถลุง บอกขนาดนี้ก็ต้องกินแล้วล่ะ สรุปอร่อยจริง! เหมือนเปี๊ยบ! ใครมาต้องมาโดนค่ะ!
เราว่าเมืองพะอัน ความน่ารักของเขาอยู่ที่ความเรียบง่าย สงบ โอบล้อมไปด้วยภูเขา ทุ่งนา บวกกับคนพม่าที่ทาทานาคา นุ่งผ้าถุง/โสร่ง ยิ่งเพิ่มความน่ารักเข้าไปใหญ่ ใครสายชิลแนะนำ Rent a bike & Go on! รอบๆ เมืองเลย
แต่ด้วยความที่วิวทุ่งนา ภูเขา มันก็จะคล้ายแถวต่างจังหวัดบ้านเราอ่ะเนอะ มันก็เลยจะไม่ได้ว้าวถึงกับต้องนั่งเครื่องมาลงย่างกุ้ง เพื่อต่อรถมาเมืองนี้โดยเฉพาะขนาดนั้น แต่ถ้ามีเวลาเหลือเยอะ แวะมารับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
ส่วนตัวเราเองประทับใจกับที่นี่มากๆ เพราะด้วยความที่เป็นเมืองใกล้ด่านแม่สอดห่างจากไทยแค่สามชั่วโมงเท่านั้น (เราเองก็เพิ่งรู้จากลุงคนแรกตอนมาถึงนี่แหละ) ทำให้เราเจอคนพม่าเข้ามาทักเยอะมาก ที่สำคัญคือน่ารักกันทุกคน
เอาจริงๆ เวลาเราเจอคนพม่าที่มาทำงานในบ้านเรา เราก็จะรู้สึกว่า อ๋อนี่เป็นแรงงานพม่า ต่างด้าวอะไรประมาณนี้ใช่มะ แต่พอมาเมืองนี้ก็คือเปลี่ยนความคิดเราไปเลย คนพม่าที่เคยทำงานอยู่ที่ไทยเค้ามองเราในฐานะเพื่อน ทำเหมือนเราเป็นคนในครอบครัวเค้าอย่างงั้นเลย คือแอบรู้สึกผิดไปเลยค่ะ ดีใจมากๆ ที่ตัดสินใจแวะมาเมืองนี้เพียงเพราะเหตุผลเริ่มต้นแค่ว่าอยากขี่มอไซต์เท่านั้น
และขอตบท้ายด้วยการแวะกินตลาดข้างทางก่อนเอามอไซต์ไปคืน สตรีทฟู้ดที่แท้ทรู เดินไปชี้สั่งแล้วคุยกันกับเพื่อนว่า ‘อันนี้คืออะไรวะ’ มีแม่ค้าพ่อค้าตะโกนกลับมาช่วยตอบ 3-4 คนแหนะ 5555555 พร้อมเดินข้ามแผงมาแนะนำนู่นนี่ น่ารักมากเลย
Trick & Trip
- การเดินทางจากย่างกุ้ง ต้องนั่งรถไปลงที่ Aung Mingala Bus Station ตรงนี้เป็นเหมือนอารมณ์สถานีขนส่งบ้านเรา ห่างจากเมืองประมาณ 45 นาที (ค่าแท็กซี่ ~9,000 kyats)
- ถ้าอยากประหยัดก็ขึ้นรถเมล์จากในเมืองตรง Sule Pagoda ไปก็ได้ค่ะ แต่ไม่แนะนำเพราะมันต้องเปลี่ยนรถสองรอบ ใครกลัวแท็กซี่โก่งราคา เรียก GrabCar แทนก็ได้
- เมืองย่างกุ้งตอนเช้าและเย็นรถจะค่อนข้างติดเลยค่ะ เผื่อเวลาด้วยน้าาา
- ถ้าไปถึงก่อนเวลาขึ้นรถบัส แต่ละบริษัทเขาก็มีที่ให้นั่งรอนะ
- ระหว่างทางมีแวะให้กินข้าวด้วยค่ะ (จ่ายเอง)
- ส่วนขากลับถ้ารถมาถึงเช้าตรู่ ตอนลงก็จะมีคนมามะรุมมะตุ้มตามเสต๊ปขนส่งทุกประเทศ (แอบน่ากลัวนิดนึง) แต่ทำหน้าดุๆ ไว้ค่ะ เอาอินเนอร์แบบว่า ‘ชั้นก็ไม่ได้กลัวแกสักเท่าไหร่หรอกนะ’ พร้อมหยิบโทรศัพท์กด Grab ให้ไว / ไม่รู้ว่าเขาไม่ถูกกันเหมือนที่ไทยมั้ย แต่แอบๆ หน่อยก็ดีค่ะ
- ไม่แนะนำไปเช้าเย็นกลับ เหนื่อยมากกก ควรไปนอนขั้นต่ำหนึ่งคืน
- เราไปช่วงกุมภาฯ คือแดดร้อนแบบแผดเผามาก แว่นกันแดด ครีมกันแดดเตรียมเถิด
- ส่วนใหญ่ที่เที่ยวจะเป็นวัดค่ะ สาวเซ็กซี่หนุ่มขาสั้น ผ้าถุง เสื้อคลุมเตรียมให้พร้อม หรือถ้าไม่มีส่วนใหญ่จะมีให้เช่าด้านหน้านะคะ
- Sadan Cave เปิดเฉพาะช่วงเดือน พ.ย. – ม.ย เท่านั้นนน