เกาะช้าง จังหวัดตราด ทะเลที่ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพ ต่อให้ไม่มีรถส่วนตัวก็มาได้แบบง่ายๆไม่งง
แค่นั่งรถตู้ ต่อด้วยเรือประมาณ 5-6 ชั่วโมงเท่านั้นก็ถึงแล้ว
ง่ายขนาดนี้ เราเลยตัดสินใจมาใช้เวลาสามวันสองคืน นั่งชิลนอนชิลกับเพื่อนอยู่ที่นี่กัน
การเดินทางมาเกาะช้างแบบคนไม่มีรถอย่างเราๆ คือไปขึ้นรถตู้ที่อนุเสาวรีย์ชัยฝั่งวิคตอรี่พ้อยท์
คนละ 300 บาท ( รถจะไปส่งต่อเราให้สองแถวเพื่อนั่งไปท่าเรือ สามารถซื้อตั๋วเรือไปกลับจากที่นี่ได้เลยราคา 160 บาท )
หลังจากนั้นก็รอเวลานั่งเรือข้ามไปเกาะช้างกันเลย…
DAY 1
นั่งเรือประมาณ 30 นาทีก็จะข้ามมาถึงเกาะช้างกันเรียบร้อย
หลังจากนั้นเราก็เดินตรงดิ่วไปยังบรรดารถสองแถวที่จอดรอๆกันอยู่ รถสองแถวผ่านทุกหาดค่ะ จะไปไหนก็บอกได้เลย ที่พักที่เราจองมาอยู่ที่หาดคลองพร้าว ไม่ไกลมาก ค่าโดยสารคนละ 70 บาท
( ถ้าที่พักไม่ได้ลับแลมาก ส่วนใหญ่บอกชื่อที่พักไปคนขับก็จะรู้เลยนะว่าอยู่ตรงประมาณไหน )
ตอนแรกว่าจะเดินไปหาร้านกินข้าวกันก่อน ค่อยออกไปท้าแดดท้าฝนที่ชายหาด
แต่ที่โฮสเทลมีครัวค่ะ เสร็จพวกเรา สบายเลยทีนี้ ไม่ไปแล้วร้านอาหาร ข้ามฝั่งไปซื้อพวกไข่ ผัก มาม่ามาทำกินกันกันเองแทน
อาหารที่ทำนี่ก็ไร้สาระมากกก มาม่า แต่ด้วยความที่มากับเพื่อนอะเนอะ
มันสนุกก็ตรงได้ทำนี่แหละ 5555555 กินได้ไม่ได้ช่างมัน เน้นความบันเทิงไว้ก่อน
เครื่องปรุง กะทะ ภาชนะนี่เขามีไว้ให้ใช้ฟรีหมดเลย แต่กฏคือ ใช้เสร็จแล้วก็ล้างทำความสะอาดคืน
ส่วนตู้เย็นเราจะซื้ออะไรมาแช่ก็ได้ แต่ต้องเอาก็อตเทปเขียนชื่อแปะไว้ บ่งบอกความเป็นเจ้าของ น่ารักกกกก 5555
ไม่มีหายนะ นี่แช่หมดทั้งเป๊ปซี่ ขนม ของจุกจิก เบียร์ ยังอยู่เหมือนเดิมเป๊ะ
หลังจากกินเสร็จ ฝนก็ตกค่ะ… แต่ยังไม่จบเห่ เราก็นั่งๆนอนๆอยู่โฮสเทล หาไรทำรอเวลาฝนหยุดเนี่ยแหละ แล้วถึงค่อยออกไปเดินเล่นที่ชายหาดกัน
ด้านหลังโฮสเทลจะมีสะพานเดินตรงไปถึงหาดได้เลย
น้ำทะเลที่หาดด้านหลังไม่ได้ใสกริ๊งขนาดนั้น แต่ก็ยังน่าเล่นอยู่ดี ข้างทางนี่จะมีชิงช้าผูกกับต้นไม้ไว้เป็นระยะๆให้นั่งชิล มีบาร์ มีที่นั่งของ
ที่พักรีสอร์ทต่างๆไว้บริการ จากหาดเรามองเห็นเกาะหยวกไกลๆด้วย พี่ที่โฮสเทลบอกว่า สามารถเช่าเรือคายัคพายไปได้
ที่นั่นไม่มีปะการัง แต่น้ำใสมากกก และปลาเยอะมาก ไม่ไกลมากแค่ครึ่งวันเอ๊ง
เอิ่ม ครึ่งวัน…..
หลังจากเดินๆย่ำๆอยู่แถวหาด แบบพอให้เท้าเปียกน้ำทะเลนิดๆ เราก็ย้ายเป้าหมายใหม่ เดินไปสุดหาดนู่นเลยค่ะ
เพราะเป้าหมายตอนเย็นของเราวันนี้คือไปดูพระอาทิตย์ตกที่แหลมไชยเชษฐ์กัน ระยะทางไม่ไกลมากค่ะ พอแค่ให้เหงื่อไหลนิดหน่อย
มันจะเหนื่อยก็เพราะเดินบนทรายเนี่ยแหละ (จากหาดทรายแถวหน้าที่พัก มองไปก็จะเห็นแหลมอยู่แค่เอื้อมม)
ก่อนจะไปถึงแหลม สายตาที่ฉับไวก็หันไปเห็นสะพาน
สะพานยื่นไปกลางทะเล ใช่ มันคือสะพานยื่นไปกลางทะเล!!!!!!!!
ไม่มีมุมไหนเหมาะแก่การถ่ายรูปเท่ากับมุมนี้แล้วววววว้อย (คิดในใจ)
ไม่รีรอหักมุม เลี้ยวไปทางสะพานทันที 55555555
วิวดีมากกกกกกกกกกกกก ( ใครจะไปแหลมจะผ่านสะพานนี้ทุกคน )
น้ำทะเลแถวสะพานนี่ใสมาก มีปลาด้วย ไต่บันไดลงไปได้เลย แต่หินเยอะหน่อย
ที่เห็นกลุ่มหินตรงนั้นคือที่ที่เราไปดูพระอาทิตย์ตกกัน
อ่ะถึงเวลาไปดูพระอาทิตย์ตกกันสะที แต่ด้วยความที่คิดว่าจะไปง่าย
ไม่ง่ายเลยยยยย คือมันต้องปีนหิน ขึ้นลงนู่นนี่นิดนึง กว่าจะไปถึงคือฟ้าเริ่มมืดละ
ถึงปั๊ป เมฆบัง จบกัน…. หมดกันภาพอาทิตย์กำลังตกเหนื่อน้ำชั้น
แต่ไม่เป็นไร ช็อตนี้แสงสวยมากกกก คนไม่มีเลยค่ะ มีแต่พวกเราแค่นั้นเลย
แบบเงียบมาก สงบบบบบ ไร้ผู้คน แหลมทั้งแหลมเป็นของเราอะไรประมาณนั้น
(ยังไม่มีใครเอะใจ ทั้งๆที่แหลมนี้มันก็ดัง ทำไมคนไม่มีเลย… เดี๋ยวบอกๆ)
ดูเสร็จ เราก็ปีนป่ายกลับที่พักกันค่ะ กว่าจะถึง เหงื่อโชก
ที่พักตอนกลางวันดูเงียบๆ แต่พอตอนกลางคืนนี่ต่างชาติเต็มเลย นอนแถวโซฟา แถวเตียงสระน้ำบ้าง
ชิลมากก แล้วก็ตรงครัวนี่ ฝรั่งก็มาทำสปาเก็ตตี้กันด้วยยยย
แล้วคือเขาทำเยอะ ก็แบบเขียนตรงบอร์ดเลยค่ะว่าฟรี ไปตักได้เลย ลาบปากกกกเด้อ 555555
นั่งชิล นอนชิลอยู่ตรงโซนนี้ไปยาวค่ะๆ บรรยากาศอบอุ่นมาก เหมือนบ้านเลย
DAY 2
ตื่นมากินข้าวเช้ากันก่อน เดินไปกินร้านข้างๆโฮสเทลนี่แหละค่ะ
เราคิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของเดียวกันนี่แหละ เปิดจนถึงตอนกลางคืนเลย
ใครไม่ทำอาหารกินเองที่โฮสเทล มาฝากท้องไว้ที่นี่ก็ได้
วันนี้ตอนแรกว่าจะไปดำน้ำกันค่ะ แต่ไปกันหลายคนตกลงกันไม่ได้ บางคนก็อยาก บางคนไม่อยาก
สรุปไม่ได้ไป แล้วก็แยกย้ายกันค่ะ ใครอยากทำไรก็ทำ แล้วค่อยกลับมาเจอกันตอนเย็น เพราะเดี๋ยวไปบาร์
นี่ก็เลยมาหยิบสน็อคเกิ้ลที่โฮสเทลเดินไปตรงสะพานที่เมื่อวานไปมากัน สน็อคเกิ้ลนี่ฟรีนะ! มันจะมีโซนชั้นๆที่วางของเกี่ยวกับชายหาดให้ยืมไปใช้อยู่
เสื่อ แผ่นโยคะ ปิงปอง หนังสืองี้ ยืมไปใช้ได้เลย แต่เหมือนเดิมค่ะ ต้องเอามาคืนด้วยยยย
เมื่อวานเราเห็นว่าน้ำใสมาก และปลาเยอะมาก เลยกะจะลองปีนบันไดลงน้ำซะหน่อย
พอลงเท่านั้นแหละ น้ำขุ่นเลย 5555555555 หินเยอะมากย้ำอีกรอบ ปลาหนีอีกลืมซื้อขนมปังไป
ห้องพักแบบรวมที่นี่ แอร์จะปิดตอนสิบเอ็ดโมงถึงห้าโมงเย็น ช่วงที่เราไปนี่อากาศมันร้อนมากก ทะเลก็เบื่อแล้วเหนียวตัว
เลยมานั่งๆนอนๆตากพัดลมที่โฮสเทลกัน กลายเป็นนักท่องเที่ยวแบบขี้เกียจไปโดยปริยาย
สลับกับข้ามฝั่งไปร้านของชำตรงข้ามซื้อเป๊ปซี่มากินกันเป็นว่าเล่น
ขอพูดถึงเรื่องการเดินทางบนเกาะช้างหน่อย สำหรับใครที่ไม่ได้เอารถส่วนตัวมา
แล้วอยากไปหาดอื่นบ้าง ถ้าจะสะดวกปต่ไม่หยัดก็สองแถวนี่แหละแต่ราคาก็แพงเอาเรื่อง
แต่ถ้าใครขี่มอไซต์แข็ง เช่าโลด ประหยัดกว่าเยอะค่ะ แต่ต้องย้ำว่าแข็งจริงๆแหละ เพราะถนนมันแบบขึ้นเนิน หักศอกมีหมด
จะบอกว่าฝรั่งที่โฮสเทลเป็นแก๊งค์เลย เช่ามอไซต์ขี่ไปเที่ยวกัน ตอนแรกออกไปหล่อทุกคน
แต่พอกลับมานี่ผ้าพันแผลมาเต็ม บางคนแขน บางคนขา อันนี้จริงๆๆ คิดแล้วก็แอบขำ 5555555 แต่ก็สงสารรร
เรามีแวะเดินไปกินข้าวร้านข้างๆบ้าง แล้วก็กลับมานั่งดูหนังที่โฮสเทลต่อ
อ่ะ มาดูความชิลกันต่อ
และตอนเย็นเหมือนเดิมอีกแล้ว ด้วยความแค้นที่ไปไม่ทัน
เราเลยเดินไปดูพระอาทิตย์ตกอีกรอบ… มีความจริงจัง 55555
คราวนี้ไปถึงไว พระอาทิตย์ยังไม่ตกนั่งดูนู่นดูนั่นไปเรื่อย แล้วก็ไปสะดุดกับแหลมหิน เราก็เอ๊อะ ทำไมคนตรงนั้นเยอะจัง
ทำไรกัน… เขานั่งทำไรกันนนนนนน มองเห็นบันไดปีนระหว่างหินอย่างดี หันหน้าออกทางพระอาทิตย์ตก คนนั่งพร้อมหน้าพร้อมตา
โป๊ะ โป๊ะเลย แหลมไชยเชษฐ์……………
ตรงนั้นต้องเป็นแหลมไชยเชษฐ์แน่ๆ แล้วที่เรานั่งอยู่กันมาสองวัน ปีนป่ายกันมาสองวันติด นี่คืออะไร 5555555555
เสร่อมากค่ะ สรุปไปผิด แหลมไชยเชษฐ์มันตรงนู้นไม่ใช่ที่อยู่กันตรงนี้ว้อยยยยยย
แต่ตรงนี้ก็ดีนะ ปีนมาลำบากหน่อยแต่ก็สงบดี แต่ต้องระวังพอมืดแล้วมันมืดเลย คนน้อยอันตราย น้ำขึ้นหินลื่น…
หลังจากนั้นเราก็กลับมาที่พัก อาบน้ำอาบน้ำท่ากันก่อน พร้อมออกอีกรอบ
คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายของทริปแล้วว เราจะไปนั่งชิลกันอย่างต่อเนื่องที่ สบาย บาร์กันนนนน
พวกบาร์ ผับ จะครึกครื้นกันมากแถวหาดทรายขาว
ซึ่งต้องนั่งรถสองแถวไป เดินไม่ได้ไกลล ขาไปคนละ 50 บาท
แต่ขากลับโดนไปคน 70 เพราะว่าดึกแล้ว ก็เลยโดนโก่งราคาไปตามระเบียบ (อันนี้พยายามต่อแล้วนะ)
ที่ สบาย บาร์ จะเป็นร้านอาหารติดทะเลเลย
ตอนค่ำก็จะเป็นร้านอาหารนี่ละ มีดนตรีสด มีโชว์ไฟเป็นรอบๆ
ที่นั่งมีทั้งแบบโซฟา โต๊ะเก้าอี้ธรรมดา แต่เท้าติดทรายทุกโต๊ะได้บรรยากาศมาก
แต่พอสักประมาณ 5 ทุ่มก็จะเริ่มย้ายเข้าโซนผับกันแล้วค่ะ
DAY 3
วันนี้วันสุดท้ายแล้ว
เลยกะว่าจะไปพายเรือคายัค เล่นทะเล ว่ายน้ำสระกันก่อนแล้วค่อยอาบน้ำเช็คเอ้าท์
เรือคายัคมีให้เช่าตามข้างหาดเลย ชั่วโมงละ 90 บาท นั่งพายกันได้ 3 คน เอาจริงๆแค่ครึ่งชั่วโมงก็เหนื่อยกันแล้ว
พายๆวนๆอยู่เท่านั้น คิดว่าไปไกล พอเอาขาจุ่มปุ๊ป น้ำทะเลยังครึ่งน่องอยู่เลย 555555
พอเช็คเอ้าท์แล้ว เราก็ฝากของฝากกระเป๋าไว้ที่โฮสเทลก่อน
เดี๋ยวค่อยกลับมาเอา เพราะจะไปตะลุยน้ำตกกันก่อน เอาให้คุ้มก่อนกลับเนอะ
‘น้ำตกตลองพลู’ เรียกสองแถวจากหน้าที่พักไป 50 บาท ค่าเข้าถ้าเราจำไม่ผิดน่าจะ 20 บาท
ตอนแรกไม่ได้หวังอะไรมาก เพราะพี่ที่ร้านบอกน้ำมันแห้งนะ แต่ไหนๆก็มาแล้ว ก็แวะไปแล้วกัน
ไปถึงนี่ต้องเดินเข้าไปอีกหน่อย ไม่ไกลแต่เหนื่อยมาก เพราะร้อน 5555555 ประมาณ 700 เมตรถ้าจำไม่ผิดนะ
ข้างทางนี่น้ำแห้งขอด แต่พอไปถึงตัวน้ำตกนี่สวยมากกกกก ขนาดน้ำไม่ค่อยเยอะ
แต่มันก็ลงเล่นได้นะ น้ำเย็นมากกกกก ฝรั่งเอย เด็กเอยเล่นกันเต็ม
ต้องไปนะ คือมันดีมากกกก
หลังจากนั้นเราก็นั่งรถลงมาเอาของที่โฮสเทล แล้วก็ไปยืนรอรถสองแถวไปท่าเรืออีกรอบ
ใครที่จองรถขากลับไว้เรียบร้อยแล้ว ต้องเผื่อเวลารอสองแถวนิดนึงนะ ตอนเรานี่รอนานมากก
เพราะไม่ใช่ทุกคันจะเข้าท่าเรือหมด แต่ละคันก็มีเวลาเข้าท่าเรือของตัวเอง ถ้าคันนี้เต็ม ก็ต้องรอคันใหม่รอบหน้า
สำหรับทริปนี้เกาะช้าง ก็จบแล้วววว
อาจจะอยู่แถวโฮสเทลไม่ได้ออกไปไหนเยอะ แต่สำหรับเรามันชิลมากค่ะ
ประหนึ่งว่าเหมือนบ้าน 555555 อ้อ ถ้าใครมาคนเดียวไม่ต้องกลัวเหงา ค่อยมาหาเพื่อนที่โฮสเทล
เพราะตรงเค้าท์เตอร์จะมีบอร์ดกิจกรรม นัดไปทำนู่นทำนี่กันค่ะ บางวันก็พายเรือคายัค บางวันก็ปาร์ตี้
วันที่เราไปเป็นวอล์เล่ย์บอลชายหาด นี่เล่นไม่เป็น อด…..