‘เกาะช้าง’ ก่อนจะเริ่มกระทู้ขอเกริ่นก่อนเลยว่า
สามวันสองคืนสำหรับที่นี่ โครตไม่พอ เรามารอบสองแล้วนะ
ก็ยังไม่พอ แนะนำให้เก็บตังค์มาสักฟ่อน แล้วอยู่ยาวไปเลยจ้า มีอะไรให้ทำเยอะมากก
จุดเริ่มต้นของทริปนี้ คือการที่ทั้งพี่ทั้งน้องรู้สึกเหมือนกันว่า
ก่อนจะลงหลุมความเครียดไปกับการสอบกลางภาคที่กำลังคลืบคลานเข้ามานั้น
ขอชิลกันให้สุดๆก่อนว้อยยยยยย
อ่ะ หยิบแว่นกันแดด รองเท้าแตะซักคู่ บิกินี่อีกสักตัว ลุยยยย!
(ตัดภาพมาที่ความจริงกระเป๋าตุง พร๊อพเยอะสุดๆ เหมือนแบกบ้านไปด้วย 5555)
ปล.ถ้าขี้เกียจอ่าน งั้นดูวิดีโอเสพบรรยากาศไปก่อนก็ได้นะ 5555
DAY1
———————————————————
ผ่างงงง! หมดเวลาเกือบทั้งวันไปกับการเดินทาง
ภาพที่วาดไว้คือ เช็คอินเข้าโรงแรมปุ๊ป เราจะเช่ามอไซค์ขี่ไปโดดน้ำตกคลองพลูปั๊ป
ต่อด้วยการไปเดินเล่นที่โลนลี่บีช นั่งบาร์ ดูพระอาทิตย์ตกกัน
แต่ความจริงมันโหดร้าย โหดสุดก็อีตอนรถติดอยู่ตรงพระรามเก้าเนี่ยแหละคะ
สิบโมงกว่าแล้ว รถตู้ยังไม่พ้นจากกรุงเทพเลยจ้า สรุปกว่าจะข้ามเรือมาถึงเกาะช้างก็ตอนสี่โมงเย็น
อีกครึ่งชั่วโมงน้ำตกปิด เปลี่ยนแผนกันแทบไม่ทัน…
ที่พักของเราสำหรับทริปสามวันสองคืนนี้ คือออออ AWA RESORT KOH CHANG ค่ะ
ตั้งอยู่ที่หาดไก่แบ้ ทำเลดีงาม เลี้ยวซ้ายน้ำตกคลองพลู เลี้ยวขวาไปทางโลนลี่บีช
ฝั่งตรงข้ามข้างๆ มีพวกคาเฟ่น่ารักๆ ร้านค้าชาวบ้านด้วยย
แต่ก่อนอื่นเรามาพากันเช็คอิน แล้วรีบออกไปเช่ามอไซค์กันก่อนนนนน
(ดูกล้ามแขนตรงนั้นนน เอ้ยยยย ล๊อบบี้โรงแรมสิคะ 5555)
ก่อนจะเริ่มออกไปแว๊นซ์มอไซต์ พี่ที่โรงแรมเขาก็แนะนำเราว่า
ทางไปโลนลี่บีชมันขึ้นเขานะ ไม่ค่อยมีไฟมันอันตราย ลองเปลี่ยนไปดูพระอาทิตย์ตก
ที่จุดชมวิวไก่แบ้ดูสิ ใกล้ๆ สวยเหมือนกัน ที่มีตู้ไปรษณีย์สีแดงอันใหญ่ๆอะ
นี่ก็คิดว่า ไอ้จุดชมวิวไก่แบ้ของพี่เนี่ย มันคงฟิลแบบถ่ายกับหลักกิโลอันใหญ่ๆ
ไม่ก็ ป้ายมาถึงแล้วจ้าเกาะช้าง อะไรประมาณนั้นเลยไม่ได้สนใจ จะมุ่งหน้าไปโลนลี่บีชกันอย่างเดียวเลย
แต่ปรากฏว่า พอขับผ่านหันไปเห็นวิวเท่านั้นแหละ โอโหหหหหหห
เลี้ยวรถยูเทิร์นเข้าไปเลยจ้า สวยมากกกแบบคือดีต่อใจสุดๆ แนะนำว่าห้ามพลาดดดด
หลังจากฟินอยู่กับพระอาทิตย์ที่ค่อยๆตกน้ำไป
เริ่มกลับมาสู่ความเป็นจริง …มืดเลย มืดจริงอย่างที่พี่เขาบอกเป๊ะ
ละนี่ยังไม่ถึงครึ่งทางไปทางโลนลี่บีชเลยนะ ผ่านเนินมาแล้วสองลูก ขึ้นสุดลงสุด
อ่ะป่ะ เปลี่ยนที่กันเหอะเรา สุดท้ายเลยขับรถย้อนกลับมา SABAY BAR หาดทรายขาวเจ้าเก่าที่เคยมาเมื่อครั้งก่อน
ถนนเส้นที่มาทางหาดทรายขาว ขับง่ายค่ะ มืดบ้างเป็นบางช่วงแต่ยังพอขับกันได้อยู่
สบายบาร์ จะเป็นร้านอาหารนั่งชิลล์ ที่นั่งยื่นไปตรงหาดเลย มีดนตรีสด แล้วก็ตอนดึกข้างในจะมีผับด้วย
อาหารอร่อยยย อยู่ที่ประมาณ 100+ มีโชว์กระบองไฟฟรีวันละประมาณสามรอบ ดีงามม
DAY2
———————————————————
วันนี้ตารางแน่นเอี๊ยดด ตามภาษาคนมีเวลาน้อยแต่จะเที่ยวให้คุ้มที่สุด 55555
เพราะฉะนั้นรอบเช้าเราจะไปดำน้ำกัน และต่อด้วยขี่ช้าง แล้วเล่นน้ำกับนางต่อในตอนบ่าย
จริงๆตอนแรกจองกันมาแค่โปรแกรมช้างค่ะ แล้วกะว่าตอนบ่ายจะพายคายัคจากที่พัก
ไปดำน้ำกันเองที่เกาะตรงข้ามโรงแรม แต่พอลงพื้นที่จริงแล้วนั้น
น้องเองก็พบว่า มันช่างไกลกันเหลือเกิน เดาสภาพตัวเองออกเลยว่า
หนึ่งพายไปไม่ถึง หรือสองพายถึงแต่อาจจะพายกลับไม่ไหว 55555
โอเคค่ะ ยอมแพ้ เดินวกกลับไปล็อบบี้จองทัวร์ดำน้ำกันให้ไว…
(ทั้งสองกิจกรรมเราจองผ่านที่พักค่ะ แถวๆล็อบบี้จะมีโต๊ะที่รวบรวมโบรชัวร์
กิจกรรม แฟ้มทัวร์ต่างๆไว้ให้พร้อมเลย ราคาไม่แพงพอๆกับในเน็ตเลย
มีทั้งเดินป่า ดูโชว์นู่นนี่ หรือจะเป็นสปาของโรงแรมก็มี)
แต่ก่อนจะไปดำน้ำ กองทัพต้องเดินด้วยท้องกันก่อน
ลุยค่ะ อาหารเช้าโรงแรม! ตักวนไป! นี่พยายามกินน้อยเพราะต้องไปดำน้ำนะ (พยายามแล้วจริงๆ)
ที่โรงแรมจะแบ่งออกเป็นโซนๆค่ะ
อย่างโซนที่เรามากินข้าวเช้าเนี่ยจะเรียกว่า The Spoon
อ่ะ ระหว่างรอรถมารับ สิงอยู่ชายหาดริมทะเลไปค่ะ ตอนเช้าสงบมากกกกกกก
ต้นมะพร้าวของโรงแรม คือเหมาะกับการเป็นพื้นหลังรูปดิสโปรไฟล์เป็นที่สุด
ทัวร์ดำน้ำ เราไปของ น.ไก่แบ้ฮัทสปี๊ดโบ๊ท ค่ะ ท่าเรืออยู่ใกล้ที่พักมากกก
เป็นทัวร์แบบครึ่งวันเก้าโมงเช้า ถึงเที่ยง นั่งเรือสปี๊ดโบ๊ทไปดำที่เกาะหยวก
(ปกติจะเป็นแบบลำใหญ่ ไปหลายเกาะ ทั้งวัน)
มีสมาชิกเรือคือ แก๊งค์คุณลุงคุณป้าฝรั่งสี่คน ไกด์หนึ่งคน และเราสองพี่น้องอีกสองคน
เรือไปถึงลำแรกของเกาะเลย เลือกพื้นที่ปูเสื่อวางของกันได้อย่างแบบสบายใจ
จะนอนชิล นั่งชิลก่อนก็ได้ แล้วค่อยลงทะเลไปดำน้ำ
เกาะหยวก นั่งเรือสปี๊ดโบ๊ทออกไปประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ
ไม่ต้องดำไปไหนไกล เดินมาในทะเลประมาณครึ่งเอว ปลาก็มารอเต็มเลยค่ะ
น้ำใสมากกกก ว่ายออกไปไกลอีกหน่อยก็เจอกับพวกปะการัง
สำหรับการมาดำน้ำครั้งแรกเนี้ย ถือว่าตื่นเต้นมากกกก ดำกันจนปากเปื่อยเลยจ้าาา 5555
เยอะพอๆกับปลา คือหอยเม่น และปลิงทะเล มีปลานกแก้วหลงมาบ้างนิดหน่อย
นี่ตอนว่ายกลับ เจอหมึกกระดองด้วยยยนะ ใกล้ๆเลยย
พี่ต้น ไกด์เราก็ใจดี อาสาเอาโกโปรลงไปถ่ายใกล้ๆให้ พาดำไปดูนู่นดูนี่ ถ่ายรูปคู่ให้
มีความไพรเวททัวร์ เหมือนเหมาเรือมากันสองคน 555555
สักสิบโมงเรือลำอื่นก็เริ่มทยอยมาจอดค่ะ รวมๆแล้วประมาณ 6-7 ลำ
แต่คนก็ถือว่ายังไม่เยอะ ไม่วุ่นวายนะ
เสร็จจากดำน้ำมาในสภาพหัวเปียกกรัง แฉะไปทั้งตัว
ตอนบ่ายเรามีไปต่อ รีบสระผมแต่งหน้าวนไปค่ะ
น้องช้างรอเราอยู่ มื้อเที่ยงเราเลยฝากท้องไว้กับโรงแรม ด้วยการสั่งพิซซ่าขึ้นมากินบนห้องมันซะเลย
ก่อนที่จะข้ามไปช็อตน้องช้าง
ขอโชว์ห้องนอนเราก่อน ห้องใหญ่มากกกก
และใหญ่พอๆกับห้องคือห้องน้ำ และใหญ่พอๆกับห้องน้ำ คือกระจกห้องน้ำนิแหละ
(อันนี้เลิศ คือปกติอยู่บ้านแย่งกันใช้แต่งหน้าเนอะ 55555)
ที่ห้องมีระเบียง พร้อมโซฟาสำหรับนั่งชิลล์ด้วยค่ะ
วิวตรงระเบียงคือดีงามมทั้งเช้าและเย็น
ส่วนทัวร์ช้างเนี้ย เราไปของ ปางช้างมีชัย ค่ะ
ตั้งอยู่ตรงข้ามท่าเรือไก่แบ้เมื่อกี้เลย เป็นโปรแกรมสองชั่วโมง (นั่งช้าง + ดูโชว์ + เล่นน้ำ)
ลงจากสองแถวที่มารับปั๊ป ก็ขึ้นนั่งช้างกันต่อเลย
ช้างที่เรานั่งในวันนี้ชื่อว่า สีเงิน ค่ะ
แดดตอนบ่ายนี่จัดว่าโหดมาก แต่ไม่ต้องห่วงไป เขามีร่มไว้พร้อมบริการ
และแจกน้ำให้กันอีกคนละขวด
แต่นั่งๆไปสักพัก เส้นทางก็จะเริ่มเดินเข้าป่า ไม่ร้อนแล้วค่ะ
บางช่วงนี่ขึ้นเนินบ้าง เลาะขอบทางบ้าง
หลบหลุมทีโยกไปทั้งตัว แอดเวนเจอร์มากก เอียงอีกนิดคือเทกระจาด
เจ้าสีดาก็ เดินไป กินไป ขี้ไป ตัวหน้าเจ้าโพก็ไม่ต่างกัน กินไป ฉี่ไป
จะเลี้ยวออกนอกทางไปหาอะไรกินเรื่อย ควาญช้างต้องคอยดึงหู เรียกสติกันอยู่ตลอดเวลา 5555
ระหว่างทางควาญช้างก็ใจดี เด็ดดอกไม้ข้างทางมาให้
พร้อมกับการควักกำไลแกะสลักรูปช้างอันละแปดร้อยออกมาขาย
(แต่กำไลสวยจริงงง ถ้าไม่ติดว่าตอนเย็นต้องเก็บตังค์ไว้กินข้าวนะ หื้มมม)
วิวตรงนี้ดี๊ๆคะ มองเห็นเกาะที่อยู่ตรงข้ามที่พัก แบบไกลๆด้วย ลงจากช้างปุ๊ป
พักเบรคด้วยผลไม้ฟรีอีกหนึ่งจาน ระหว่างนั้นก็จะมีเจ้าช้างออกมาแสดงให้ดู
เต้นกาโวบ้างละ ยืนเต้น นั่งเต้น น่าร๊ากกกกกกก
ยังค่ะ ยังไม่จบกับปางช้างมีชัย
เรานั่งรถสองแถวไปเล่นน้ำกับช้างกันต่อ ตรงข้ามปางนิแหละ (ซึ่งมันคือที่เดียวกับที่รอไปดำน้ำเมื่อเช้า 555)
ไปถึงก็มีเจ้าลูกช้างตัวนึง ยืนรอเลยจ้าาาา
พอเห็นเราเดินไปเท่านั้นแหละ
เหมือนรู้งาน มันรีบเดินจ้ำๆลงทะเลเลย
เจ้าช้างเด็กนี่ ชื่อว่าเพิ่มพูนค่ะ
น่ารักมากกกกกกกกกกกกก คือชื่อโปรแกรมว่าเล่นน้ำกับช้างก็จริง
แต่นังเพิ่มพูน เหมือนมาเล่นคนเดียว
เอะอะเป็นดำน้ำ กลิ้งตัว คือมันดูสนุกมากกกก55555555
ตอนอยู่ในน้ำ เราสามารถขึ้นไปขี่คอมันได้ค่ะ
แต่พูดเลยว่าขึ้นไปไม่ถึง 5 วิ มันพาทิ้งตัว พามุดน้ำเลยยย
นี่โดนถีบไปที ประสบการณ์ใหม่มากโดนช้างถีบ 555555555
เพิ่มพูนยังเป็นช้างเด็กอยู่ค่ะ ยังพ่นน้ำไม่ได้ แต่ชอบสะบัดงวงไปมา ดมนู่นดมนี่ไปเรื่อย
แนะนำว่าใครอยากมาใกล้ชิดกับช้างแต่เวลาจำกัด เราว่าตัดนั่งช้างออกไปก็ได้
แล้วมาเล่นน้ำกับช้างอย่างเดียวเลยแทน ครึ่งชั่วโมง ห้าร้อยบาทแต่คน
ดูเหมือนแพง แต่คุ้มมากกกกกก
เราจะใกล้ชิดแบบกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับช้างเลย สนุกมากกก
ยังค่ะ ยังไม่เหนื่อย กลับไปพายคายัค แล้วก็เล่นน้ำที่โรงแรมกันก่อน
คายัคที่นี่มีให้เช่า ชั่วโมงละสามร้อย ถ้าเหมาเลยทั้งวันก็แปดร้อย
มีพนักงานลากลงทะเลให้เลยพร้อมกับพูดว่า ‘ถ้าพายกลับไม่ไหว ให้ส่งสัญญานเรียกนะครับ’
รู้งานดีจัง 55555555555555
ตรงหน้าโรงแรม เราสามารถลงเล่นน้ำทะเลได้เลยค่ะ
ชายหาดด้านบน ก็จะมีเตียงเก้าอี้ ของโรงแรมไว้ให้นอนเล่น
บวกกับต้นมะพร้าวสูงๆแล้วนั้น อารมณ์แบบเหมือนอยู่ฮาวายเลยยยย
จุดถ่ายรูปปปสำคัญ ชิงช้าที่ผูกกับต้นไม้ที่ยื่นออกไปกลางทะเลค่ะ
ได้อารมณ์มากกกก
ด้วยความที่วันนี้ทำนู่นทำนี่ทั้งวัน หมดแรงจะไปเช่ามอไซต์ขี่ไปเที่ยวแล้วค่ะ
เย็นวันนี้เราเลยตัดสินใจ นอนพักเอาแรงบนห้องก่อน แล้วค่อยลงมาชิลล์กันอยู่ที่ชายหาดหน้าโรงแรมเนี้ยละ
นอนไปแป๊ปเดียวเท่าน้าน ต้องรีบลงมาค่ะ
เพราะว่าช่วงห้าโมงเย็น ถึง ทุ่มครึ่งเป็นช่วง happy hours ค๊อกเทลซื้อ 1 แถม 1 โอ้ยยยยย
ไม่ตื่นไม่ได้จ้า 555555555555 ลืมเหนื่อยกันเลยทีเดียว
แต่จริงๆมีอีกรอบ ตอนสามทุ่ม-สี่ทุ่มด้วยนะ
หรือใครจะอยู่ยาวมันทั้งสองช่วงเลยก็ไดด้
เราสั่ง Tequila Sunrise มานั่งดูดระหว่างดู Sunset ไปด้วยค่ะ ฮี่ๆ
แต่สรุปแล้ว ฟินกว่าค๊อกเทล ก็คือวิวพระอาทิตย์ตกหน้าโรงแรมเนี้ยละจ้า ดีมากกกกกกก (อีกแล้ว)
อาจจะเป็นเพราะเราชอบดูพระอาทิตย์ตกอยู่แล้วด้วย
เลยตื่นเต้นไปหน่อย
แต่แนะนำเลยนะเกาะช้าง มีจุดดูพระอาทิตย์ตกสวยๆเยอะมาก
นี่ครั้งก่อนมา ก็ดูมันทุกวันเลย (ถ้าพักแถวหาดคลองพร้าวนะ แนะนำจุดตรงข้ามกับแหลมไชยเชษฐ์ ดีงาม)
นั่งเพลินๆ สายตาพลันหันไปเห็น แนวหินของโรงแรมที่ยื่นออกไปกลางทะเล
รออะไร ปีนสิคะ!
พอเริ่มมืด ซุ้มสลัด ซุ้มอาหารทะเลก็เริ่มทยอยมาตั้งค่ะ
พ่อครัวก็ขนอุปกรณ์มาย่างกันสดๆเลย เราสามารถเดินไปจิ้มๆ แล้วสั่งให้ย่างได้เลย
ชาวอ้วนอย่างเราไม่ต้องรอให้พนักงานเดินมาถามหรอก ว่าเอาอะไร บุกก่อนเลยจ้าา
แต่ที่ชอบอย่างนึงของที่นี่นะ คือพนักงานเป็นกันเองทุกคนเลยค่ะ
โดยปกติอิสองพี่น้องนี่ชอบเกร็งๆ แต่พนักงานเข้ามาชวนคุย เป็นกันเองมาก
พี่ที่แนะนำเรื่องทางไปโลนลี่บีช ก็เป็นพนักงานที่ขนกระเป๋าขึ้นห้องมาให้เราเนี้ยแหละ
ตอนเช้าพอเจอกันก็ถามว่าเป็นไงบ้าง น่ารักสุดดด
นั่งกินไปเม้าท์ไป ก็มีดีเจมาเปิดเพลงด้วย
พีคกว่าคือ มีโชว์กระบองไฟตอนสามทุ่มอีก เอ้าาาา
สรุปใครมาช่วงวันเสาร์ไม่อยากขี่มอไซต์ไปไกล อยู่ดูโชว์กระบองไฟที่โรงแรมก็ได้ค่ะ เค้าก็มีเหมือนกันน
นี่ก็ไม่ได้อ่านป้ายข้างหน้ากันเล้ยยยยยยย
คือทางที่พักจะมีกิจกรรมในตอนเย็นทุกวันค่ะ เช่นแรกที่เราไปถึงวันศุกร์ ก็จะเป็นรำไทย ดนตรีสด
วันเสาร์ก็ดีเจมาเปิดเพลง กับโชว์กระบองไฟ ธีมเมนูอาหารกับสถานที่ก็เปลี่ยนเหมือนกัน
เจ็ดวันเจ็ดแบบ วางแผนกันมาดีๆ
สักพักฝนก็เริ่มตกค่ะ เลยต้องเขยิบเข้ามานั่งกินข้าวในโซนศาลา
พร้อมกับดูโชว์กระบองไฟท่ามกลางสายฝนไปด้วยซะงั้นเลยยยยย
DAY3
———————————————————
วันสุดท้าย รถตู้มารับกลับตอนเก้าโมงค่ะ
และเรายังคงคอนเซปต์เดิม เอาให้คุ้มสุด
รีบตื่นมากินข้าวเช้า แล้วลงมาว่ายน้ำสระ 55555
นี่ถ้าไม่ติดว่า พระอาทิตย์ขึ้นตกทางกันคนละทางนะ จะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยเลยเอ้า!
จะกลับไปสอบแล้วอ่ะเนอะ เอาให้คุ้มๆๆๆ อีกอย่างวันนี้ไม่มีดำน้ำแล้ว
กินข้าวเช้าได้อย่างเต็มที่ ลุยยยยยยค่าา
สระว่ายน้ำที่นี่เป็นแบบแนวยาว ถ้ามองมาจากล๊อบบี้นี่มองยาวไปเห็นทะเลเลยยยยนะ
ออกมาว่ายตอนเช้าๆ บรรยากาศดี สงบอีกแล้ว
ชาร์ตแบตรอบสุดท้ายให้เต็ม ก่อนกลับเข้ากรุงเทพเฮือกก (:
TRICK & TIPS
– คนขี่มอไซต์ไม่แข็ง ไม่แนะนำให้เช่าขี่นะ ทางบางช่วงคือเนินขึ้นสุดลงสุดมาก
แต่ถ้าขับได้ เช่ามอไซต์โลดดด ค่าสองแถวนั่งไปนู่นไปนี่ เผลอๆพอกับค่าโรงแรม
– ดำน้ำแบบไปเรือสปี๊ดโบ๊ท ถ้าหนึ่งเกาะยังไม่จุใจ มีโปรแกรมแบบสี่เกาะด้วย
– ถ้าเน้นมาใกล้ชิดกับช้าง แนะนำโปรแกรมเล่นน้ำด้วยกันไปเลย 500บาท/30 นาที
– นอกจากช้างและดำน้ำ ยังมีเดินป่า ดูโชว์สัตว์ และกิจกรรมอีกเยอะ คือเกาะช้างมีอะไรให้ทำเยอะมากก ไม่ต้องกลัวเบื่อเลย
– ที่โรงแรมมีกิจกรรมค่อนข้างครบ ใครขึ่มอไซต์ไม่แข็งหรือไม่อยากเสียค่าสองแถวไปไหน ก็ซื้อทัวร์หรือหาอะไรทำที่โรงแรมก็ได้
– สายถ่ายรูปก็เหมาะะะนะ คือแค่กำแพง ประตูโรงแรมก็สวยแล้วอะ ร้อยรูปวนไปค่ะ
– มีสปาด้วยยยย เที่ยวหนักๆ นอนนวดกันหน้าทะเลเลย
– เรือคายัค ถ้าใครฟิตๆ เหมาทั้งวันพายไปเกาะนู้นเกาะนี้ได้เลยค่ะ
– ตรงบริเวณท่าเรือไก่แบ้ที่ไปอาบน้ำช้าง มีชายหาดอยู่ค่ะ เดินไปเล่นได้
BUDGET
– AWA RESORT KOH CHANG ห้องดีลักซ์ คืนละ 3,365 บาท (สองคนนน รวมอาหารเช้า)
– ดำน้ำครึ่งวัน เรือสปี๊ดโบ๊ทเกาะหยวก คนละ 600 บาท
– โปรแกรมช้างสองชั่วโมง (นั่ง+เล่นน้ำ) คนละ 1,500 บาท
– รถตู้จองผ่านโรงแรม คนละ 1,000 บาท/เที่ยว
รวมตั๋วเรือแล้วนะ ส่งถึงโรงแรม แล้วก็ขากลับเราพักอยู่แถวพระราม9 ทางผ่านรถตู้พอดีส่งกลับถึงคอนโดเลย
– เช่ามอไซต์วันละ 250 บาท
– ค่ากินอันนี้ตามอัทธายาศัยเลย นี่กินสะเปะสะปะมากก
สรุปแล้วถึงจะเที่ยวอัดแน่นเต็มวันยังไง เราก็ยังเที่ยวเกาะช้างไม่หมดอยู่ดี 55555
ยังมีกิจกรรมอีกหลายอย่างเลยที่อยากทำ ใครกำลังหาทะเลเที่ยวอยู่นะ ห้ามพลาดดดด
ไม่ไกลมากก มุมสงบก็มี มุมแอดเวนเจอร์ก็มี !
: )
