หลังจากเปียกปอน ฝ่าดงทากขึ้นดอยที่ ‘บ้านห้วยฮี้’ กันมาแล้ว
จุดหมายปลายทางถัดไปในจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ของพวกเราก็คือ …‘เฮินไต รีสอร์ท’
ที่พักท่ามกลางทุ่งนาสีเขียว ที่มีบรรดาขุนเขา และสายหมอกออกมารอต้อนรับแขกอย่างเรา
ให้ได้เอนตัวพักผ่อน หย่อนใจอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ รีเซ็ตปอดตัวเองให้สดชื่น
ก่อนจะกลับไปสู่ความวุ่นวายที่เมืองหลวงอีกครั้ง
เฮินไต รีสอร์ท ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ลาน้อย อำเภอเล็กๆที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและความหลากหลายทางวัฒนธรรม จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง ขับรถมาทางเส้นแม่สะเรียง จะเจอป้ายใหญ่ๆ ขับเข้าไปในซอยอีกประมาณห้าร้อยเมตรก็ถึงแล้วค่ะ
ที่พักที่นี่จะมาในรูปแบบ ‘เฮินไต’ หรือบ้านพักสไตล์ไทใหญ่ผสมผสานกับความทันสมัย แต่ยังคงคอนเซปต์กลมกลืนกับธรรมชาติ เหตุผลที่บ้านพักเป็นสไตล์ไทยใหญ่เนี้ย เป็นเพราะว่าชาวบ้านแถวนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวไทใหญ่นิแหละค่ะ แต่ละหลังรูปแบบก็จะแตกต่างกันออกไป แต่รับรองว่าวิวดีเห็นทุ่งนาทู้กกกกหลังเลย
( อันนี้คือหลังที่เราไปพักค่ะ ถ้ามาตอนที่เขาดำนาเสร็จแล้ว จะมีทุ่งนาเขียวๆอยู่หน้าที่พักเลย)
เราไปพักที่เฮินไตกันตอนช่วงปลายเดือนกรกฎาคม
เป็นช่วงที่ชาวบ้านกำลังเริ่มดำนากันพอดี เพราะฉะนั้นพื้นที่บางส่วนของรีสอร์ท
ก็ยังจะเป็นแปลงโล่งๆอยู่ อาจจะยังไม่สวยแต่สูบเหมือนช่วงหน้าหนาวที่ชาวบ้านดำนาเสร็จ ต้นข้าวขึ้นเขียวขจีแล้ว
แต่ความสนุก และพิเศษของหน้าฝนมันคือ …การที่เราได้ช่วยชาวบ้านดำนา!!!
ใช่แล้ววววว นอกจากจะมาซึบซับเอาบรรยากาศ ที่เฮินไตก็ยังมีกิจกรรมที่ให้เราย่ำโคลนลงไปดำนากับชาวบ้านด้วย
จากที่สังเกตุดูชาวบ้านจะแบ่งทีมงานเป็นสามฝ่ายค่ะ
ฝ่ายแรกจะเป็นฝ่ายถอนกล้ามามัดให้เป็นกำๆ ฝ่ายสองจะขนส่งใส่กระบุงแล้วก็มาโยนไว้ตามแปลงที่ว่าง
และฝ่ายสามก็คือฝ่ายดำนา ที่จะต้องนำต้นกล้าแต่ละกำ มาดึงออกที่ละกระจุกๆ แล้วก็ค่อยๆบรรจง ปักลงไปให้เป็นแถว
วิธีการก็คือเอานิ้วโป้ง กดลงไปในดินให้เป็นรูแล้วเอาต้นกล้าปักไป แล้วก็เอาดินปาด ปั๊ปเข้าให้เป็นอันเสร็จ
นั่นนนนน ทฤษฎีแน่นมากค่ะ แต่พอลงมือปฏิบัติเท่านั้นแหละ
ปักเฉียงเล่นเอาแถวชาวบ้านรวนบ้างแหละ ปักปุ๊ปต้นกล้าลอยแตกแขนงบ้างแหละ 5555555
จากที่คิดว่าจะมาช่วย กลายเป็นภาระซะงั้น ใครไปช่วงต้นข้าวโตๆแล้วเห็นบางแปลงแหว่งๆนี่ไม่ต้องสงสัยเลยเน๊าะ
แต่ถ้าใครมาช่วงที่ชาวบ้านดำนาเสร็จไปแล้ว ก็ไม่ต้องน้อยใจไป บริเวณรอบๆเฮินไต ก็ยังมีกิจกรรมหลายๆอย่างให้ทำอยู่ดีค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงหัวห้อมที่มีไร่กาแฟอราบิก้าของสตาร์บัค หรือจะเป็นนาขั้นบันไดที่โครงการหลวงแม่ลาน้อย ใครไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถบอก ‘พี่เน็ต’ เจ้าของที่พักให้ติดต่อหารถให้ก็ได้ค่ะ
แต่สำหรับเราที่เวลาน้อย เลยขอเลือกเป็นปั่นจักรยานฟรีของที่พัก
ไปสัมผัสความน่ารัก และวิถีชีวิตของชาวไทใหญ่บริเวณชุมชนรอบๆแทนค่ะ
ขี่ไปไม่ไกล เราเจอกับบริเวณสี่แยกที่มีวัดแม่ลาน้อยตั้งอยู่
เลี้ยวซ้ายมีตลาดให้แวะ เลี้ยวขวาจะเป็นทางขึ้นเนินไปที่ไหนสักที่ (แต่เดาว่าวิวมันจะต้องสวยแน่ๆ)
สำหรับพวกเราเลือกจอดจักรยาน แล้วเดินสำรวจวัด และบ้านบริเวณรอบๆกันค่ะ
ชาวไทใหญ่เขานับถือศาสนาพุทธกันค่ะ เพราะฉะนั้นช่วงเช้าที่เรามาขี่จักรยานเล่นแบบนี้
ภาพที่เห็นบ่อยสุด เห็นจะเป็นชาวบ้านทั้งหญิงและชาย เดินบ้าง ขี่มอไซต์บ้าง แต่ที่แน่ๆต้องมีติดปิ่นโตมาทำบุญที่วัดกันด้วยคนละเถาค่ะ น่ารักมากก หรือไม่ก็จะเห็นพระเดินบิณฑบาตรตามบ้านแทน
ส่วนเรื่องอาหารการกินมีร้านสะดวกซื้ออยู่ไม่ไกลมากที่หน้าปากซอย
แต่เราว่าไม่จำเป็นเพราะที่นี่เขามี ‘ครัวเฮินไต’ ไว้คอยบริการ ไม่ว่าจะเป็นอาหารท้องถิ่น ไทใหญ่มีหม๊ดดดดด
ตอนเย็นไม่ต้องออกไปไหนเลย กินมันที่นี่นิแหละ (นี่สั่งมากินหลายอย่างมาก แต่หิวจัดลืมถ่ายรูป)
จะมีก็แต่ข้าวเหนียวหมูสไตล์ไทใหญ่มื้อเช้านิแหละค่ะ ที่พอมีสติถ่ายทัน 5555555 อร่อยเด้อออ
และนอกจากอาหาร ที่พัก วิวสวยๆที่ประทับใจแล้ว อีกอย่างก็คือบริการของที่นี่นิแหละค่ะ
ไม่ว่าจะเป็น ‘พี่เน็ต’ เจ้าของที่พักที่ดูแลดีมากก เดินดูพูดคุยกะแขกทุกคนอย่างทั่วถึง
เราก็ขอแนะนำอีกคน แท่ แดดดด๊… พี่กบหรือพี่ชาหนึ่งในพนักงานของเฮินไตเองจ้า 5555555
น่ารักมากกกกก ยิ้มแย้มจริงใจคือบริการเราหยั่งกะแขกระดับวีไอพี พาไปดำนาก็เอาพร๊อพหมวกมาให้
พอรู้ว่าจะกลับ ก็มารอคอยขนของ นี่ยังไม่รวมชวนไปขี่จักรยานตอนเช้านัดพวกเราหกโมง แต่พี่แกดั๊นนอีกลืมนะ 55555
อีกหนึ่งไฮไลท์ของเฮินไตคงหนีไม่พ้น
ลานไม้กลางรีสอร์ท ที่มองเห็นทุ่งนาได้แบบเต็มๆตา
พร้อมมีบันไดลงเล็กๆ ให้ลองเอาเท้าจุ่มน้ำ ย่ำโคลน วิ่งเล่นบนทุ่งนากันด้วย
ตรงจุดนี้คือชิลมากกกก สำหรับใครอยากมานอนเต้นท์แคมป์ปิ้ง บริเวณใกล้ๆ
ก็มีอีกหนึ่งลานไว้ให้กางด้วย ถ้าสนใจก็สามารถติดต่อเช่าเต้นท์กับพี่เน็ตได้เลยย
และลานดูทุ่งนาในตอนเช้า พอตกเย็น
ก็จะเปลี่ยนเป็นลานดูดาว แคมป์ปิ้ง ย่างบาร์บีคิวอย่างที่เห็นในตอนกลางคืน
กับแกล้มก็สั่งได้ที่ครัวเลยค่ะ กองไฟก็มีนะ
พี่กบเจ้าเก่าเจ้าเดิม แกก็ขนไม้พร้อมไฟแช็ค มาหักฟืนจุดไฟให้เลยจ้า 5555
ชิลม๊ากกกกกกกกก!
สเน่ห์ของ ‘แม่ลาน้อย’ ยังมีอีกหลายที่ให้มาค้นหาเลยค่ะ เป็นอำเภอเล็กๆแต่ธรรมชาติเค้านี่เต็มสูบมากก
จริงๆพี่เน็ต แนะนำที่เที่ยวอีกหลายที่ใกล้ๆเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทะเลหมอกหรือสะพานวัดใจ
ช่วงหน้าฝนนี่ไม่ได้เที่ยวยากอย่างที่คิด ความเขียวของธรรมชาตินี่ฉ่ำมากกก
วิธีเดินทางก็มาได้ง่ายๆ ทั้งจากทางแม่ฮ่องสอน และทางเชียงใหม่เลย
สำหรับ เฮินไต รีสอร์ท สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง
http://www.herntai-resort.com/index.html
หรือโทร 0869153555 / 053-689 033 ได้เลยค่ะ
🙂