เราไปมาเมื่อตอนต้นปีค่ะ จริงๆเล่าแยกไว้แล้วอีกบล็อคนึง แต่เนื่องจากไปกันหลายวัน โอโหก็เล่ายาว เขียนยาวเวิ่นเว้อซะเหลือเกิน เลยขอรวบรัดตัดตอน เอาแต่ข้อมูลหลักๆมาแยกไว้ในบล็อคใหม่ จะได้อ่านกันง่ายๆ ไม่ต้องเลื่อนกันจนตาลาย เผื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆที่กำลังหาข้อมูลสำหรับจะไปเที่ยวสองเมืองนี้อยู่ค่ะ
ทริปนี้เราไปกันสองคน ทั้งหมดแปดวัน เริ่มจากการนั่งรถทัวร์จากเชียงใหม่ ไปหลวงพระบาง ต่อด้วยอีกยี่สิบแปดชั่วโมงบนรถบัสไปฮานอย และจบทริปด้วยการนั่งเครื่องบินกลับบ้าน ข้อมูลการเดินทางส่วนใหญ่จะเน้นไปทางเส้นทาง กับสถานที่ที่เราไปนะคะ แต่จะเพิ่มเติมส่วนอื่นให้นิดหน่อยจากข้อมูลที่เราหาไว้ ว่าแล้วก็ขอเปิดตัวด้วยวิดีโอกันซักหน่อย อิอิ
สำหรับกระทู้เต็มๆแบบเวิ่นเว้อฟูลออฟชั่น
8 วันที่หลวงพระบาง และฮานอย ลิ้งค์ข้างล่างเลยค่า
:: Laos – Vietnam :: แปดวันกับการออกเดินทางสองเมืองสองประเทศ หลวงพระบาง ฮานอย (ฉบับรถทัวร์!)
STEP 1 : เตรียมตัวไปหลวงพระบาง
• ต้องใช้พาสปอร์ต แกจะไปแบบไหนก็ได้ แต่แกจะไปหลวงพระบางโดยไม่ใช้พาสปอร์ตไม่ด้ายยยยยนะจ้ะ
• ลาวใช้เงินกีบ มาแลกที่ด่านไทยลาวก็ได้นะ วิธีคิดเงินง่ายๆคือตัดศูนย์ออกสามตัวหลัง และคูณสี่
• โหลดแผนที่มากันไว้ก่อนเลย หลวงพระบางเมืองไม่ใหญ่มากก็จริง แต่นี่หลงกันมาแล้ว แบบแอป maps me และแบบปริ้นท์ติดตัว hobomaps.com
• กางเกงขายาว เอาไว้สำหรับใส่เข้าวัดไม่งั้นต้องเสียค่าเช่าผ้าถุง 20 บาทแหนะ
• อาหารแพง อันนี้ไม่รู้จะให้เตรียมตัวยังไง เตรียมใจแล้วกันเนอะ
STEP 2 : วิธีการเดินทางไปหลวงพระบาง
• เรือช้า // ข้อมูลละเอียดมากอัญเชิญค่ะ : http://www.louangprabang.net/content.asp?id=7 เราแนะนำเส้นทางนี้มากกกสำหรับคนมีเวลา คือนั่งเรือนานหน่อยแต่น่าสนใจมากค่ะ เราจะได้แวะนอนที่ปากแบงด้วย เส้นทางคือ เชียงของ-ห้วยทราย-ปากแบง-หลวงพระบาง
• รถทัวร์ มีรถโดยสารระหว่างประเทศให้เลือกค่ะ (1) เลย – หลวงพระบาง // ราคา 700 บาท มีรอบเดียวรถออก 8 โมงเช้า และ (2) เชียงใหม่ – หลวงพระบาง // ราคา 1,200 บาท รถออกวันเว้นวัน มีรอบเดียวคือ 9 โมงเช้า และถึงหลวงพระบาง 6 โมงเช้าของอีกวัน (แต่เราถึงตีสาม..) มีแวะพักกินข้าวรอบนึง พร้อมขนมและน้ำแจกบนรถ ขึ้นรถที่อาเขตเก่าค่ะ เบอร์โทร 02-936-3670
• เครื่องบิน // สำหรับคนเวลาน้อย ตอนนี้ค่าตั๋วถูกลงมาเยอะเลย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเอง สนามบินอยู่ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบางประมาณ 4 กิโลเมตร
STEP 3 : ถึงหลวงพระบางแล้วยังไงต่อ ?
สำหรับรถทัวร์ รถจะมาจอดที่สถานี South Bus station ซึ่งอยู่นอกตัวเมืองหลวงพระบางนิดหน่อย นั่งรถตุ๊กตุ๊กเข้าเมืองก็ได้ค่ะ สะดวกสุด แต่ราคาไม่ควรเกิน 60 บาทต่อคน สำหรับคนที่ไปถึงเช้าเราแนะนำให้ไปเริ่มต้นที่ร้านกาแฟประชานิยม ร้านนี้เปิดประมาณ 05.30 ค่ะ
จากร้านกาแฟประชานิยม หันหน้าไปทางริมน้ำโขง
เลี้ยวซ้าย : จะเป็นโซนวัดบ้านธาตุ โฮสเทล เกสท์เฮ้าส์ ที่พักถูกๆราคาไม่แรงมาเดินดูแถวนี้ได้เลย จากตรงนี้ถ้าเดินเข้าซอยขึ้นไปทางถนนหลัก จะเป็นโซนโจมา ร้านกาแฟชื่อดัง คนแถวนี้เขาเรียกกันโซนฝรั่งค่ะ
เลี้ยวขวา : จะเป็นที่ตั้งของตลาดเช้าและมืด พระราชวังหลวงเอย พระธาตุพูสี ที่พักก็จะมีอยู่ทางฝั่งนี้ แล้วก็เป็นทางเดินไปวัด สถานที่เที่ยวต่างๆด้วย
STEP : 4 วางแผนเที่ยวในหลวงพระบาง
การเดินทางในเมืองนี้เราขอแบ่งออกเป็น 4 แบบ คือ เดิน ขี่จักรยาน ขี่มอไซต์ และรถตุ๊กตุ๊ก
ราคาค่าเช่าสำหรับจักรยานคือ 20,000 กีบ มอไซต์ 100,000 กีบ สำหรับ 24 ชั่วโมง มีหลายร้านเลยค่ะ ลองเลือกดูได้เลยค่ะ ส่วนตุ๊กตุ๊กก็จะจอดอยู่แถวกลางเมือง ลองเข้าไปถามราคากันได้
////// Things to do in Luang Prabang : สิ่งที่ต้องทำเมื่อมาถึงหลวงพระบาง //////
• ตลาดเช้า ตลาดนี้อยู่แถวพระราชวังหลวงค่ะ ที่นี่มีของขายเยอะมาก ทั้งของสดของแห้ง ของฝากหนังควายเอย กบ หนู ขนมครก เฝอ
อาหารต่างๆ แชมพู เสื้อใน งานไม้ ผ้าถุง มาหมดทุกอย่าง
• วัดเชียงทอง วัดนี้จุดเด่นคือกำแพงสีแดงที่ตกแต่งด้วยกระจกสีเป็นรูปต่างๆค่ะ น่ารักมากก ณ จุดนี้กดชัตเตอร์กันไฟไหม้ ค่าเข้าคนละ 20,000 กีบ ระยะทางไม่ไกลมาก ถ้าเดินไป-กลับก็พอให้หอบ ถ้าขี่จักรยานมาก็สบายค่ะ
• เดินเล่นแม่น้ำโขง ข้ามสะพานไม้ไผ่
สะพานไม้ไผ่ที่เราจะเจอจะมีอยู่สองจุดค่ะ คือตรงแม่น้ำคาน และแม่น้ำโขง วิวทั้งสองที่ก็จะแตกต่างกันไป ลงไปเดินเล่นแถวหาดทรายเล็กๆก็ได้ แต่ถ้าข้ามสะพานจะเสียค่าข้ามอยู่ที่คนละ 5,000-7,000 กีบ
• นั่งเล่น นอนเล่นที่ร้านกาแฟ
คาเฟ่ ร้านกาแฟที่หลวงพระบางมีค่อนข้างเยอะเลยค่ะ สามารถเดินหรือไม่ก็ขี่จักรยานเอาก็ได้ ราคาก็จะคล้ายๆกับบ้านเรานี่แหละ แต่ถือว่าเอาบรรยากาศเนอะ เรามีมาแนะนำสองที่ค่ะ
(1) L’etranger Books and Tea : ร้านนี้มีสองชั้น ชั้นบนตอนกลางคืนมีฉายหนังให้ดูฟรี แถมยังมีอาร์ตแกลอรี่เล็กๆให้แวะดู ส่วนชั้นล่างก็จะเป็นโซนขายของแฮนด์เมด แล้วก็มีหนังสือให้อ่าน พนักงานน่ารักกกก
(2) Utopia : ร้านนี้ทีเด็ด คือเหมือนเป็นสถานที่ที่แบบถ้ามาหลวงพระบาง แล้วควรมาเลยนะ ตอนกลางวันจะเป็นร้านกาแฟมีอาหารขายธรรมดา แต่กลางคืนก็จะเป็นบาร์ค่ะ ร้านน่ารักมากกกกอีกแล้ว เป็นโซนให้นั่งให้นอนมีหลายโซนเลย มีโยคะ แล้วก็วอลเล่ย์บอลให้เข้าร่วมด้วยค่ะ แต่แค่ไปนั่งๆนอนๆ อ่านหนังสือก็ฟินแล้วนะ (ร้านนี้ไม่อยู่ติดถนนต้องเข้าซอยไปอีก ไปไม่ยากนะ แต่แนะนำให้ขี่จักรยานไม่ก็มอไซต์มาดีกว่า)
• มองหลวงพระบางมุมสูง และดูพระอาทิตย์ตกที่พระธาตุพูสี
เช็คเวลาพระอาทิตย์ตกก่อนนะจะได้มาทัน สำหรับใครที่เช่าจักรยานขี่วนรอบเมือง หรือมอไซต์เนี่ย เราแนะนำให้เอาไปคืนร้านก่อนเพราะตลาดมืดจะเริ่มตั้งกันแล้วค่ะช่วงเย็น ไม่งั้นเดี๋ยวจะเอาออกมาจากโซนนั้นลำบาก ( โดนมาแล้ว 5555 ) บันไดนี่หลายขั้นเอาซะหอบเหมือนกัน แต่ขึ้นไปจะกรี๊ดมากกก กับวิวหลวงพระบาง ค่าเข้า 20,000 กีบเด้อ
• กินบุฟเฟ่ต์หมื่นกีบที่ ตลาดมืด
เอาจริงๆ ไม่ต้องกินตรงตลาดมืดก็ได้นะ เขยิบขยายออกมาแถวซอยข้างๆตลาดมืดอีกหน่อย น่ากินกว่าเยอะเลยค่ะ แต่โดยรวมแล้วปรุงๆใส่พริก ใส่ซอสมันเข้าไปก็ใช้ได้อยู่ ไม่ถึงกับอร่อย แต่ควรต้องมาลองแหละ อีกอย่างของขายเยอะมากกกก ส่วนมากจะเป็นของฝาก เสื้อผ้า ของแฮนด์เมด ราคาไม่แรงค่ะ คล้ายๆถนนคนเดินเชียงใหม่เลย
• ไปกระโดดน้ำตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง ตาดกวางสี
อันนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองออกมาประมาณ 30 กิโลเมตรค่ะ จะนั่งตุ๊กตุ๊กมาก็ได้ราคาประมาณ 40-80 บาทต่อเที่ยว (อันนี้ถ้าจำไม่ผิดนะ) ส่วนมอไซต์ขับมาได้ค่ะไม่หลงแน่นอน แต่! ทางเป็นแบบขึ้นเขา มีหลุมบ่อบ้าง โค้งและรถเยอะค่ะ แนะนำว่าถ้าขี่ไม่แข็งอย่าเสี่ยงเลย ตอนเราขี่ไปเจอฝรั่งหลุดโค้งเลือดเต็มหน้าเลยค่ะ ตอนหลังเราเองขี่ไปก็หวั่นๆโชคดีที่มีพี่คนไทยไปด้วย พี่เขาเลยมาช่วยขับให้ค่ะ
ค่าเข้า 20,000 กีบ มีอาหารขายบริเวณรอบนอก แนะนำว่าให้ไปแต่เช้าๆค่ะคนยังน้อยอยู่ สวยมากกกกก
• ตักบาตรเช้าหลวงพระบาง
เริ่มตั้งแต่ตี 5 จนซักประมาณ 6 โมงเช้ากว่าๆเลยค่ะ ออกมายืนรอแถวถนนเส้นหลักได้เลย จะมีบรรดาๆป้า มาขายของใส่บาตรอยู่ค่ะ ของใส่บาตรเนี่ยชุดละ 40 ก็น่าจะได้ ( วันแรกป้าขายเราแบบนี้ค่ะ แต่เราไม่ได้ใส่) แต่พอมาใส่จริงๆเราโดนไป 120 ลืมคิดเลยว่าแพง เพราะตอนนั้นง่วงมากมารู้ตัวกันทีหลังค่ะ 55555
• เดินเล่นเรื่อยเปื่อย
อันนี้ก็แนะนำนะ ตอนแรกเราคิดว่าหลวงพระบางเป็นเมืองเล็กๆเพราะขี่จักรยาน และมอไซต์ไง แต่พอมาเดินเท่านั้นแหละ โอโหหห รู้เรื่องงงไม่เล็กนะคะหลวงพระบางเนี่ยยย มีมุมให้แวะหยุดถ่ายรูปได้เรื่อยๆเลย
STEP 5 : การวางแผนเที่ยว
สำหรับใครที่วางแผนไม่ถูก เราแนะนำ 3 วัน 2 คืนกำลังพอเหมาะค่ะ
วันแรกเช่าจักรยาน เก็บสถานที่ในเมือง วัด ร้านกาแฟ พิพิธภัณฑ์อะไรแบบนี้ แล้วตอนเย็นมาขึ้นพระธาตุพูสี
วันที่สอง ตักบาตร ขี่มอไซต์ไปตาดกวางสี แล้วกลับมานอนชิวที่ยูโทเปีย พร้อมลุยตลาดมืด
วันที่สาม เก็บตกหลวงพระบางด้วยการเดินเท้าดูนู่นดูนี่ค่ะ
ทริคเล็กๆน้อยๆ
• หลวงพระบางยังมีที่เที่ยวอีกเยอะ ถ้ำปากอู น้ำตกตาดแซ่ พิพิธภัณฑ์ วัดต่างๆ
• ค่าส่งโปสการ์ดที่ลาวแพงค่ะ ตกใบละประมาณ 30 กว่าบาท
• อาหารนี่เราแนะนำ หมูกะทะริมโขง 555555 ดูไร้สาระมั้ย แต่มันอร่อยจริงๆนะน้ำจิ้มไม่เหมือนบ้านเรา มีรังนมด้วย!
• ที่พักโฮสเทล และเกสต์เฮ้าส์แบบถูกๆ ราคาพอๆกัน ถ้าตัวหารเยอะเผลอๆเกสท์เฮ้าส์ถูกกว่าค่ะ
• ร้านอาหารลองเดิน หรือขี่จักรยาน หาเอาตามตรอกซอยที่ไม่ใช่โซนนักท่องเที่ยวดู จะถูกกว่ากันซัก 20 บาท
LUANG PRABANG – HANOI
จากหลวงพระบาง ไป ฮานอย (เวียดนาม)
STEP 1 : การเดินทางโดยรถนอนไปฮานอย
• สำหรับคนเช่ามอไซต์ ก่อนวันเดินทางให้ขับรถไปสถานีเดิมที่เรามาถึงหลวงพระบาง หรือตามแผนที่ที่เขาแจกมาคือ South bus station ค่ะ ไปติดต่อซื้อได้เลย รับทั้งเงินไทยและเงินกีบ ข้อดีคือได้ราคาถูกกว่าซื้อผ่านร้านในเมือง แต่ข้อเสียคือเราต้องหาตุ๊กตุ๊กนั่งไปสถานีเอง ถ้าหลายคนคุ้มนะ แต่ถ้าไปกันไม่เยอะไม่คุ้มค่ะ
• รถที่ไปฮานอยเป็น Sleeping Bus ค่ะ ไม่มีห้องน้ำ ราคาคนละ 1600 บาท คนขายตั๋วบอกว่าใช้เวลาทั้งหมด 24 ชั่วโมง (ของเราเอาเข้าจริง ปาไป 28 ชั่วโมงค่ะ) มีรอบเดียวคือตอนหกโมงเย็น (ไม่มีอาหารแจกบนรถนะ มีแวะกินรอบนึงตอนถึงฮานอย)
• พกไปให้ดี ถุงขนมนมเนย ผลไม้ น้ำไว้กินบนรถ / เสื้อหนาว / ยาแก้เมารถ (เผื่อไว้) / เพลงดีๆ / ที่ชาร์ตสำรอง
อ่ะ มาดูสภาพรถกันหน่อยยยยย ก่อนตัดสินใจ
และประสบการ์ส่วนตัวที่ตัดเอามาให้อ่านจากบล็อคนู้นนนนค่ะ
จากที่บอกว่ารถจะออกหกโมงเย็น สรุปออกจริงๆเกือบหนึ่งทุ่มค่ะ เพราะว่าจำนวนคนเกินไปจากที่ขายบัตร
โหย สถานการณ์ตึงเครียด พี่คนคุมรถหน้าโหดๆก็มาเล้ยย ไล่เก็บบัตรทีละคนด่าโน่นด่านี่ สุดท้ายเรื่องจบลง เพราะมันนับคนผิดค่ะ หื้มมมมมมมมมมมม – –
ช่วงแรกสถานการณ์ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ คงเป็นเพราะมันเป็นช่วงดึกด้วยเลยง่ายแก่การนอนหลับยาว จนกระทั่ง….
ซักประมาณตีสี่ เรารู้สึกหนึกที่ตัว เลยลืมตาดูค่ะ ก็พบว่ามีขาคู่นึงพาดตัวอยู่
ใช่แล้วค่ะ มันไม่ได้มาแค่ข้างเดียว มันมาทั้งสองข้างเลย แบบว่าพาดตั้งแต่พุงลงไปเป็นแนวเฉียง นี่งงมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
คือต้องยังต่อ ไม่ใช่ไรนี่เป็นผู้หญิง มันเป็นผู้ชาย นี่เมิงคิดอะไร ยังไงถึงพาดกันมาได้ลงคอ เกรงใจกูหน่อยมั้ย
อย่างน้อยแค่เบียดๆมาก็ได้ นี่พาดมาสองข้าง อะไรเมิงเนี่ยยยยยยย (คิดในใจค่ะ สุดท้ายนอนนิ่งๆด้วยจิตคิดฟุ้งซ่านต่างๆนาๆว่ามันคิดไรปะวะไปยันตีห้า)
ตอนหลังๆเริ่มไม่ไหวแล้ว จุดพีคสุด คือเรารู้สึกว่ามีอะไรมาโดนที่เอวสองสามที ไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยยยยย ผลักขามันออกแบบแรงๆแล้วลุกนั่งร้องไห้เงียบๆคนเดียวมันซะเลย ลุกนั่งปุ๊ปสภาพที่เห็น คือเบาะด้านล่างที่ว่างๆตอนนั้น เต็มไปด้วยคนนอนเบียดกันค่ะ แบบหัวชนขา ขาชนหัว ตอนนั้นแบบหลอนมากจิตตก ฟีลมันเหมือนรถคนงานต่างด้าวเลยค่ะ แบบที่อัดๆกัน
จนในที่สุดมันรู้ตัว พี่แกคือคนคุมรถโหดๆคนนั้นเองค่ะ สิ่งที่เขาทำคือลุกขึ้นมาพับผ้าของเขาแล้วก็ยื่นให้เรา
โหยยย รู้สึกกลายเป็นคนเลวทันที คือมันไม่มีที่นอนแล้วค่ะ พี่แกเลยต้องมานอนเบียดๆตรงนี้เอา
• ออกด่านลาว เข้าด่านเวียดนาม ไม่มีอะไรมากค่ะ ไม่ต้องเสียเงินแต่เอากระเป๋าตรวจเข้าเครื่อง ทำตามผู้โดยสารคนอื่นๆไปได้เลย อ่ะ มาดูวิวข้างทางกันบ้างงงงงงงง
STEP 2 : ถึงฮานอยแล้วยังไงต่อ ( เข้าเมืองฮานอย )
• รถจะจอดที่นอกเมืองค่ะ ห่างออกมาประมาณ 7 กิโลเมตร ตอนนั้นเราเหวอมาก เพราะไอ้คนที่เจอบนรถมันบอกใกล้มากเดินได้ นี่ก็โล่งใจ แต่คือพอมาแล้วดูจากแผนที่คือมันไกลออกมาเยอะ แล้วตอนนั้นประมาณ 2-3 ทุ่มแล้วด้วยค่ะ
( เน้นอีกที อย่าลืมโหลดแอป maps me แผนที่ออฟไลน์ อย่างน้อยจะได้รู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหนคะ)
• อย่างแรก ตั้งสติก่อนค่ะ เพราะพอเราลงจากรถปุ๊ป จะมีทั้งแท็กซี่ มอไซต์ มารุมล้อมเลยค่ะ แบบระยะประชิดตัว ให้เราเดินเลี่ยงออกมาไปตรงตัวสถานีก่อน มีวิธีเข้าเมืองสองแบบดังนี้
(1) รถแท็กซี่ : อันนี้เราไม่แน่ใจเรื่องราคา แต่ถ้าไปกันหลายคนน่าจะคุ้มและสะดวกกว่าค่ะ
(2) รถเมล์ : รถเมล์จะจอดอยู่ที่ตัวสถานีค่ะ สามารถเอาจุดหมายที่เราจะไปชี้ๆถามๆให้พนักงานดูได้เลย ตกคนละ 7-14 บาท แต่ถ้ากลัวเขาไม่บอก ก็เปิดแผนที่ในโทรศัพท์ไล่ดูไปเรื่อยๆ แล้วคงลงเอาก็ได้เราใช้วิธีนี้ค่ะ)
• ถ้าใครยังไม่มีที่พัก แนะนำให้มาลงย่าน Old quarter แล้วเดินหาเอาก็ได้ค่ะ มีเยอะมากกกหลายแบบหลายราคา
STEP 3 : วางแผนเที่ยวในฮานอย
เราอยู่ฮานอยกันประมาณ 4 วัน 3 คืนค่ะ ไปฮาลองเบย์ แล้วก็แค่เดินเล่นในเมือง กินนู่นกินนี่ อาจจะไม่ได้แวะเที่ยวเยอะ เพราะส่วนใหญ่เน้นเดินกันค่ะ เนื่องจากกลัวถูกโกง 5555555 จะขึ้นรถเมล์ก็กลัวงง เลยเน้นเดินกันเอา ส่วนตัวคิดว่าฮานอยนี่โครตวุ่นวายยยยยยยยยย เสียงแตรรถนี่ดังกันระงม คนเดินขายของขวักไขว่เต็มไปหมด แต่ชอบมากกกกนะค่ะ เหมือนมันเป็นเสน่ห์ของฮานอยเลยก็ไว้ได้ แค่เดินถ่ายรูปก็สนุกแล้วค่ะ
ส่วนพวกทัวร์ต่างๆ เดินหาเอาก็ได้ค่ะ แต่ถ้าอยากชัวร์แล้วไม่อยากโดนเท ก็อ่านจากในเน็ตหาบริษัทที่ไว้ใจได้แล้วเดินตามแผนที่ไปจองได้เลย
////// Things to do in Hanoi : สิ่งที่ต้องทำเมื่อมาถึงฮานอย //////
• นอนโฮสเทล
อันนี้แนะนำเลย ที่ฮานอยมีโฮสเทลดีๆสะอาดๆให้เลือกเยอะมากค่ะ โดยเฉพาะแบบที่เป็นผับและบาร์อยู่ในตัวนี่ ดีมากกก เรียกได้ว่าไม่ต้องไปไหนไกล ลงมาข้างล่างก็จัดกันได้เลย แต่ไม่ต้องกลัวเรื่องเสียงดังนะคะ สักประมาณ 4-5 ทุ่มเขาก็เริ่มปิดกันแล้ว
Hanoi Rocks Hostel อันนี้เป็นโฮสเทลที่เราพักค่ะ เบียร์ฟรี แผนที่ฟรี อาหารเช้าฟรี ในราคา 8 ดอลล่าร์ อยู่แถวด้านบนทะเลสาปฮว่านเกี๊ยม ถูกและดีมีอยู่จริงเด้ออออออออออออออ
• กินนๆๆๆ
ตระเวนกินค่ะ อาหารเวียดนามอร่อยมากกกกกก ถูกกว่าลาวเย้อะะะ ทั้งแบบเป็นร้านอาหาร และแบบข้างทางด้วย นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เราลองค่ะ แต่จริงๆคือมีอะไรน่ากินกว่านี้เยอะมากกกก อีกอย่างที่กลางคืนพลาดไม่ได้ เบียร์แก้วละ 7 บาทค่ะ ต้องไปโดน!
BUN CHA สามชั้นย่างแบบเกรียมๆใส่ลงไปซุปหวานๆ กินคู่กับขนมจีนและผักสด อร่อยแบบร้องไห้ 30,000 ดอง
• ซื้อเดย์ทริปไป ฮาลองเบย์
สำหรับวันเดย์ทริปไปฮาลองเบย์ ราคาตกอยู่คนละ 25$ รวมพายคายัคแล้ว แบบแสตนดาร์ด เราใช้บริการของ TheSinhTourist ขอสรุปในความรู้สึกส่วนตัวว่าไม่ค่อยคุ้มค่ะ ถ้าไปอยากให้ไปแบบที่ได้นอนบนเรือด้วยดีกว่า ถึงจะแพงกว่าแต่น่าจะคุ้มค่ากว่าแน่นอน
เพราะถ้าเป็นแบบไปเช้าเย็นกลับนี่ เดินทางนั่งรถไป 8 ชั่วโมง นั่งเรือแค่ 4 ชั่วโมงค่ะ ไม่โอเคเลยย แต่ยังไงถ้าถามว่าควรมามั้ยก็ควรนะ ไหนๆก็มาแล้วมันถือเป็นอีกที่ที่ควรมาาาาาา
• เข้าชมพิพิธภัณฑ์
ที่ฮานอยมีหลายพิพิธภัณฑ์ให้เลือกเข้าเยอะแยะเลยค่ะ จริงๆเราก็ไม่ได้ชอบเข้าเท่าไหร่ แต่พี่ที่เจอกันระหว่างเดินทางเขาก็แนะนำมาอันนึง ซึ่งมันใกล้มากค่ะ สามารถเดินเท้าไปได้ เพราะฉะนั้นลองดูก็ไม่เสียหายเนอะ เสียค่าเข้า 20,000 ดอง สำหรับ Fine Art Museum
• เดินเล่นในเมือง
สำหรับคนชอบถ่ายรูป ฮานอยเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากกก แนะนำให้เดินๆๆๆค่ะ หลงๆไม่หลง ยังไงค่อยดูแผนที่แล้วเดินกลับที่พักเอาละกันเนอะ ที่ฮานอยมีมุมหลบๆซ่อนๆเยอะมากก บางทีก็จะเดินไปโผล่ตามโซนที่เขาขายของกันเยอะๆ เหมือนสำเพ็งโบ๊เบ๊บ้านเราเลย ไม่ก็ตามหัวมุมถนนจะเป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะ ที่นั่นจะเป็นที่ๆคนเวียดนามรวมตัวกันมาทำกิจกรรมต่างๆ เล่นหมากรุก นั่งกินน้ำชา แทะข้าวโพด มีเสน่ห์ไปอีกแบบค่ะ
STEP 4 : การวางแผนเที่ยว
ถ้าใครมีเวลาและงบมากขึ้น เราแนะนำให้นั่งรถไปเดียนเบียนฟู – ซาปาก่อน แล้วค่อยเข้ามาฮานอยค่ะ
จะได้เที่ยวแบบครบๆกันไปเลยยยย ส่วนขากลับสนามบินฮานอยจะไกลจากตัวเมืองประมาณหนึ่งชั่วโมง ช่วงหลังเพื่อนเราตามมาสบทบ
เลยให้ที่พักเรียกแท็กซี่ให้เลยตั้งแต่เช้าสะดวกมากค่ะ รถปกตินั่งได้สี่คน ราคา 18$ แต่เราไปกันห้าคนเลยต้องใช้รถใหญ่เจ็ดที่นั่งราคา 20$
ทริคเล็กๆน้อยๆ
• เงินกีบที่เหลือ มาแลกเป็นเงินดองได้ที่ด่านข้ามแดนค่ะ
• ค่าเงินเวียดนามคิดง่ายๆคือ ตัดศูนย์สามตัวหลังออก และคูณสอง
• อาหารข้างทางของเวียดนามคือ the best ต้องลองค่ะ สุ่มๆไปเลย
• ฮานอยเราแนะนำ โฮสเทล มากๆ มันเป็นเหมือนจุดรวมพล สะดวกสบายทุกอย่างเลย
• Hanoi Rocks Hostel คือที่ไปพักมาค่ะ ดีมาก มี Free Walking Tour ด้วย แล้วมีพนักงานฝรั่งที่พูดไทยได้ด้วยย
• พิพิธภัณฑ์ที่เวียดนามน่าสนใจเยอะแยะมาก ถึงจะไม่ใช่สายนี้ก็ไปเหอะ
• ฮานอย เดินและขึ้นรถเมล์ดีที่สุดป้องกันการโดนโกงไดด้
• แถวโซนร้านขายของต่อราคาไปเลยยย เอาให้สุด
• ฮานอย ผับ บาร์ ร้านเหล้าทั้งแถวถนน และในโฮสเทล ปิดไวมากค่ะ ประมาณ 5 ทุ่มก็ปิดกันแล้ว มีตำรวจเขาออกมาตรวจกันถึงในโรงแรมเลย
จบแล้วววววว ถ้ายังไงข้อมูลผิดพลาดตรงไหนขอโทษด้วยนะคะ ถ้าตรงไหนยังไม่ชัดเจน ถามได้ ( :
อย่าลืมม ถ้าอยากอ่านเรื่องราวเต็มๆ ตามไปอ่านกันได้ที่บล็อคนู้นเลยเด้ออออ